ผลสำรวจโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย ประจำปี 2567 (Corporate Governance Report of Thai Listed Companies 2024)
จากการสำรวจโครงการ Corporate Governance Report of Thai Listed Companies (CGR) ประจำปี 2566 ที่ดำเนินการโดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (Thai IOD) ด้วยการสนับสนุนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้สำรวจข้อมูลบริษัทจดทะเบียน ทั้งสิ้น 808 บริษัท พบว่า มีคะแนนเฉลี่ยภาพรวมอยู่ที่ 84 คะแนน ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีมากและสูงกว่าปี 2566 ที่มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 81 คะแนน เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของคะแนนเฉลี่ยทุกหมวด รวมถึงการที่คณะกรรมการของ บจ. แสดงบทบาทการเป็นผู้นำในการกำกับดูแลเรื่องที่สำคัญมากขึ้น และมุ่งดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
เมื่อพิจารณาคะแนนเฉลี่ยรายหมวดของผลสำรวจในปี 2567 จะพบว่า คะแนนเฉลี่ยเพิ่มขึ้นทุกหมวด โดยหมวดที่ได้รับคะแนนเฉลี่ยตั้งแต่ 80 คะแนน ขึ้นไป มี 3 หมวด ได้แก่ หมวดการเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใส สิทธิของผู้ถือหุ้นและการปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียมกัน และการคำนึงถึงบทบาทของผู้มีส่วนได้เสียและการพัฒนาธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ซึ่งมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 88, 86 และ 80 คะแนน ตามลำดับ ส่วนหมวดที่มีคะแนนเฉลี่ยในระดับ 70 คะแนน ได้แก่ หมวดความรับผิดชอบของคณะกรรมการ ซึ่งมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 72 คะแนน
ตารางที่ 1 ผลการจัดกลุ่ม ประจำปี 2567
เมื่อเปรียบเทียบจำนวนบริษัทตามผลการสำรวจที่ได้รับในแต่ละระดับ ซึ่งมีการประกาศผลจำนวน บจ. ของแต่ละช่วงคะแนนตามสัญลักษณ์บรรษัทภิบาลแห่งชาติ พบว่า มีบริษัทจดทะเบียน 608 บริษัทที่ได้รับคะแนนเฉลี่ยตั้งแต่ 70 คะแนน ขึ้นไป หรือระดับดีขึ้นไป ในจำนวนนี้มีบริษัทที่ได้รับคะแนน 90 คะแนนขึ้นไปหรือระดับดีเลิศ 367 บริษัท (ร้อยละ 60) มีบริษัทที่ได้รับคะแนน 80-89 คะแนน หรือระดับดีมาก 120 บริษัท (ร้อยละ 20) และบริษัทที่ได้รับคะแนน 70-79 เปอร์เซ็นต์ หรือระดับดี 121 บริษัท (ร้อยละ 20)
หากพิจารณาแยกตามกลุ่ม พบว่า กลุ่ม SET สำรวจทั้งสิ้น 604 บริษัท โดยมี 467 บริษัทที่ได้รับคะแนนเฉลี่ยตั้งแต่ 70 คะแนน ขึ้นไป ในจำนวนนี้มีบริษัทที่ได้รับคะแนน 90 คะแนนขึ้นไปหรือระดับดีเลิศ 312 บริษัท (ร้อยละ 52) มีบริษัทที่ได้รับคะแนน 80-89 คะแนน หรือระดับดีมาก 85 บริษัท (ร้อยละ 14) และบริษัทที่ได้รับคะแนน 70-79 เปอร์เซ็นต์ หรือระดับดี 70 บริษัท (ร้อยละ 11) ส่วน บจ. ที่เหลือ 137 บริษัท (ร้อยละ 23) ได้รับคะแนน 0-69 คะแนน รวมถึงบริษัทที่เข้าเหตุแห่งการไม่ประกาศผลประเมิน
ส่วนกลุ่ม MAI สำรวจทั้งสิ้น 204 บริษัท จะพบว่า มี บจ. จำนวน 141 บริษัทที่ได้รับคะแนนเฉลี่ยตั้งแต่ 70 คะแนน ขึ้นไป ในจำนวนนี้มีบริษัทที่ได้รับคะแนน 90 คะแนนขึ้นไปหรือระดับดีเลิศ 55 บริษัท (ร้อยละ 27) มีบริษัทที่ได้รับคะแนน 80-89 คะแนน หรือระดับดีมาก 35 บริษัท (ร้อยละ 17) และบริษัทที่ได้รับคะแนน 70-79 เปอร์เซ็นต์ หรือระดับดี 51 บริษัท (ร้อยละ 25) ส่วน บจ. ที่เหลือ 63 บริษัท (ร้อยละ 31) ได้รับคะแนน 0-69 คะแนน รวมถึงบริษัทที่เข้าเหตุแห่งการไม่ประกาศผลประเมิน
ตารางที่ 2 ผลการจัดกลุ่ม ประจำปี 2567 แบ่งตามกลุ่มอุตสาหกรรม
เมื่อพิจารณาแยกตามกลุ่มอุตสาหกรรม พบว่า กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร สำรวจทั้งสิ้น 73 บริษัท โดยมี 64 บริษัท (ร้อยละ 88) ที่ได้รับคะแนนเฉลี่ยตั้งแต่ 70 คะแนน ขึ้นไป ในจำนวนนี้มีบริษัทที่ได้รับคะแนน 90 คะแนนขึ้นไปหรือระดับดีเลิศ 42 บริษัท (ร้อยละ 58) มีบริษัทที่ได้รับคะแนน 80-89 คะแนน หรือระดับดีมาก 14 บริษัท (ร้อยละ 19) และบริษัทที่ได้รับคะแนน 70-79 เปอร์เซ็นต์ หรือระดับดี 8 บริษัท (ร้อยละ 11) ส่วน บจ. ที่เหลือ 9 บริษัท (ร้อยละ 12) ได้รับคะแนน 0-69 คะแนน รวมถึงบริษัทที่เข้าเหตุแห่งการไม่ประกาศผลประเมิน
กลุ่มเทคโนโลยี สำรวจทั้งสิ้น 64 บริษัท โดยมี 52 บริษัท (ร้อยละ 81) ที่ได้รับคะแนนเฉลี่ยตั้งแต่ 70 คะแนน ขึ้นไป ในจำนวนนี้มีบริษัทที่ได้รับคะแนน 90 คะแนนขึ้นไปหรือระดับดีเลิศ 29 บริษัท (ร้อยละ 45) มีบริษัทที่ได้รับคะแนน 80-89 คะแนน หรือระดับดีมาก 14 บริษัท (ร้อยละ 22) และบริษัทที่ได้รับคะแนน 70-79 เปอร์เซ็นต์ หรือระดับดี 9 บริษัท (ร้อยละ 14) ส่วน บจ. ที่เหลือ 12 บริษัท (ร้อยละ 19) ได้รับคะแนน 0-69 คะแนน รวมถึงบริษัทที่เข้าเหตุแห่งการไม่ประกาศผลประเมิน
กลุ่มทรัพยากร สำรวจทั้งสิ้น 67 บริษัท โดยมี 58 บริษัท (ร้อยละ 87) ที่ได้รับคะแนนเฉลี่ยตั้งแต่ 70 คะแนน ขึ้นไป ในจำนวนนี้มีบริษัทที่ได้รับคะแนน 90 คะแนนขึ้นไปหรือระดับดีเลิศ 44 บริษัท (ร้อยละ 66) มีบริษัทที่ได้รับคะแนน 80-89 คะแนน หรือระดับดีมาก 8 บริษัท (ร้อยละ 12) และบริษัทที่ได้รับคะแนน 70-79 เปอร์เซ็นต์ หรือระดับดี 6 บริษัท (ร้อยละ 9) ส่วน บจ. ที่เหลือ 9 บริษัท (ร้อยละ 13) ได้รับคะแนน 0-69 คะแนน รวมถึงบริษัทที่เข้าเหตุแห่งการไม่ประกาศผลประเมิน
กลุ่มธุรกิจการเงิน สำรวจทั้งสิ้น 79 บริษัท โดยมี 69 บริษัท (ร้อยละ 87) ที่ได้รับคะแนนเฉลี่ยตั้งแต่ 70 คะแนน ขึ้นไป ในจำนวนนี้มีบริษัทที่ได้รับคะแนน 90 คะแนนขึ้นไปหรือระดับดีเลิศ 47 บริษัท (ร้อยละ 59) มีบริษัทที่ได้รับคะแนน 80-89 คะแนน หรือระดับดีมาก 11 บริษัท (ร้อยละ 14) และบริษัทที่ได้รับคะแนน 70-79 เปอร์เซ็นต์ หรือระดับดี 11 บริษัท (ร้อยละ 14) ส่วน บจ. ที่เหลือ 10 บริษัท (ร้อยละ 13) ได้รับคะแนน 0-69 คะแนน รวมถึงบริษัทที่เข้าเหตุแห่งการไม่ประกาศผลประเมิน
กลุ่มบริการ สำรวจทั้งสิ้น 181 บริษัท โดยมี 130 บริษัท (ร้อยละ 72) ที่ได้รับคะแนนเฉลี่ยตั้งแต่ 70 คะแนน ขึ้นไป ในจำนวนนี้มีบริษัทที่ได้รับคะแนน 90 คะแนนขึ้นไปหรือระดับดีเลิศ 78 บริษัท (ร้อยละ 43) มีบริษัทที่ได้รับคะแนน 80-89 คะแนน หรือระดับดีมาก 24 บริษัท (ร้อยละ 13) และบริษัทที่ได้รับคะแนน 70-79 เปอร์เซ็นต์ หรือระดับดี 28 บริษัท (ร้อยละ 16) ส่วน บจ. ที่เหลือ 51 บริษัท (ร้อยละ 28) ได้รับคะแนน 0-69 คะแนน รวมถึงบริษัทที่เข้าเหตุแห่งการไม่ประกาศผลประเมิน
กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม สำรวจทั้งสิ้น 143 บริษัท โดยมี 95 บริษัท (ร้อยละ 66) ที่ได้รับคะแนนเฉลี่ยตั้งแต่ 70 คะแนน ขึ้นไป ในจำนวนนี้มีบริษัทที่ได้รับคะแนน 90 คะแนนขึ้นไปหรือระดับดีเลิศ 44 บริษัท (ร้อยละ 30) มีบริษัทที่ได้รับคะแนน 80-89 คะแนน หรือระดับดีมาก 24 บริษัท (ร้อยละ 17) และบริษัทที่ได้รับคะแนน 70-79 เปอร์เซ็นต์ หรือระดับดี 27 บริษัท (ร้อยละ 19) ส่วน บจ. ที่เหลือ 48 บริษัท (ร้อยละ 34) ได้รับคะแนน 0-69 คะแนน รวมถึงบริษัทที่เข้าเหตุแห่งการไม่ประกาศผลประเมิน
กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค สำรวจทั้งสิ้น 60 บริษัท โดยมี 40 บริษัท (ร้อยละ 67) ที่ได้รับคะแนนเฉลี่ยตั้งแต่ 70 คะแนน ขึ้นไป ในจำนวนนี้มีบริษัทที่ได้รับคะแนน 90 คะแนนขึ้นไปหรือระดับดีเลิศ 22 บริษัท (ร้อยละ 37) มีบริษัทที่ได้รับคะแนน 80-89 คะแนน หรือระดับดีมาก 7 บริษัท (ร้อยละ 12) และบริษัทที่ได้รับคะแนน 70-79 เปอร์เซ็นต์ หรือระดับดี 11 บริษัท (ร้อยละ 18) ส่วน บจ. ที่เหลือ 20 บริษัท (ร้อยละ 33) ได้รับคะแนน 0-69 คะแนน รวมถึงบริษัทที่เข้าเหตุแห่งการไม่ประกาศผลประเมิน
กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง สำรวจทั้งสิ้น 141 บริษัท โดยมี 100 บริษัท (ร้อยละ 71) ที่ได้รับคะแนนเฉลี่ยตั้งแต่ 70 คะแนน ขึ้นไป ในจำนวนนี้มีบริษัทที่ได้รับคะแนน 90 คะแนนขึ้นไปหรือระดับดีเลิศ 61 บริษัท (ร้อยละ 43) มีบริษัทที่ได้รับคะแนน 80-89 คะแนน หรือระดับดีมาก 18 บริษัท (ร้อยละ 13) และบริษัทที่ได้รับคะแนน 70-79 เปอร์เซ็นต์ หรือระดับดี 21 บริษัท (ร้อยละ 15) ส่วน บจ. ที่เหลือ 41 บริษัท (ร้อยละ 29) ได้รับคะแนน 0-69 คะแนน รวมถึงบริษัทที่เข้าเหตุแห่งการไม่ประกาศผลประเมิน
เมื่อพิจารณาในภาพรวม พบว่า มีบริษัทจดทะเบียนที่มีสัดส่วน บจ. ที่ได้รับได้รับคะแนน 90 คะแนนขึ้นไปหรือระดับดีเลิศ สูงสุด 3 อันดับแรกอยู่ในกลุ่ม ทรัพยากร (ร้อยละ 66) ธุรกิจการเงิน (ร้อยละ 59) และเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร (ร้อยละ 58) ตามลำดับ ซึ่งในการสำรวจ CGR2024 มีเพียง 3 กลุ่มอุตสาหกรรมข้างต้น ที่มีสัดส่วน บจ. ที่ได้รับได้รับคะแนน 90 คะแนนขึ้นไปหรือระดับดีเลิศเกินกว่า ร้อยละ 50 ของบริษัทจดทะเบียนที่สำรวจของแต่ละกลุ่ม
ส่วนกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีบริษัทจดทะเบียนที่มีสัดส่วน บจ. ที่ได้รับได้รับคะแนน น้อยกว่า 70 คะแนนลงมาหรือน้อยกว่าระดับดีรวมถึงบริษัทที่เข้าเหตุแห่งการไม่ประกาศผลประเมินสูงสุด 3 อันดับแรกอยู่ในกลุ่ม สินค้าอุตสาหกรรม (ร้อยละ 34) สินค้าอุปโภคบริโภค (ร้อยละ 33) และอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง (ร้อยละ 29)
ทั้งนี้ จากการสำรวจพบว่า มี 3 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ไม่มีบริษัทที่เข้าเหตุแห่งการไม่ประกาศผลการประเมิน CGR ดังนี้ กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร กลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มทรัพยากร
จากผลการสำรวจข้างต้น แสดงให้เห็นว่า บริษัทจดทะเบียนไทยมีแนวโน้มให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลที่ไม่ใช่ทางการเงิน และการปรับบทบาทและภาวะผู้นำของคณะกรรมการในเชิงรุกมากขึ้น ซึ่งเป็นไปตามความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสียกลุ่มต่างๆ
นางสาวมณี มณีแสง
ผู้ช่วยผู้จัดการ-ด้านพัฒนาการกำกับดูแลกิจการ
สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย
|