ในบริบทที่โลกธุรกิจมีความซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว กรอบแนวคิด EDGE เป็นแนวทางการสื่อสารที่ผสานมุมมองของผู้นำเชิงกลยุทธ์ นอกเหนือจากบทบาทของ CEO แล้ว ในมุมมองของกรรมการก็เป็นอีกหนึ่งแนวคิดสำคัญที่กรรมการก็มีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความน่าเชื่อถือ ความโปร่งใส และการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียทั้งภายในและภายนอกองค์กร โดยสามารถประยุกต์ใช้ในบริบทของการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Good Governance) ได้อย่างสอดคล้อง

******************************************************

Leading with EDGE: Building Strong Stakeholder Relationships

การสื่อสารของผู้นำ ไม่ใช่แค่สิ่งที่พูด แต่คือสิ่งที่องค์กรเป็น

การสื่อสารของผู้นำ ไม่ใช่แค่สิ่งที่พูด แต่คือสิ่งที่องค์กรเป็น เมื่อบทบาทของกรรมการไม่ใช่แค่ “ตัดสินใจ” แต่ต้อง “เชื่อมโยง” ผู้มีส่วนได้เสีย ผ่านพลังของการสื่อสารที่มีจุดยืน มารู้จักกับกรอบความคิด Leading with EDGE เครื่องมือที่จะทำให้คณะกรรมการสื่อสารได้อย่างมีกลยุทธ์ สร้างศรัทธา และนำองค์กรสู่อนาคต

******************************************************

EDGE: E = Expanded View  

เปิดมุมมองกว้าง เพื่อเชื่อมโยงองค์กรกับบริบทโลกภายนอก

การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของบริบทโลกในด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อม กำหนดให้องค์กรไม่อาจพิจารณานโยบายหรือกลยุทธ์ในเชิงลึกเพียงแต่เฉพาะภายในองค์กร แต่ต้องคำนึงถึงบริบทภายนอกอย่างรอบด้าน

แนวทางปฏิบัติของกรรมการ

1.     การบูรณาการ ESG และ Megatrends เข้าสู่ยุทธศาสตร์องค์กร
กรรมการควรผลักดันให้มีการประเมินและบูรณาการประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) เข้าสู่แผนธุรกิจ และนำเทรนด์ระดับโลกมาใช้เป็นฐานในการกำหนดทิศทาง

2.     การจัดทำแผนบริหารความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสีย (Stakeholder Expectation Management)
ควรมีระบบติดตามและทบทวนแผนกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับผู้มีส่วนได้เสียอย่างต่อเนื่อง พร้อมปรับปรุงแนวทางการสื่อสารให้สอดคล้อง

3.     การพัฒนากลไกการรับฟังเสียงจากภายนอกองค์กร (Outside-in Listening)
สนับสนุนให้มีเวทีพูดคุยอย่างเป็นระบบกับ Stakeholders ที่สำคัญ และประเมินผลกระทบต่อกลยุทธ์องค์กร

******************************************************

EDGE: D = Distinctive Narrative

สร้างเรื่องเล่าองค์กรที่มีพลัง สะท้อนคุณค่าหลัก และจุดยืนที่ชัดเจน

การมี “เรื่องเล่าองค์กร” ที่โดดเด่น มีความเป็นเอกลักษณ์ และสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกรรมการและผู้บริหาร ช่วยเสริมความน่าเชื่อถือและสร้างการมีส่วนร่วม

แนวทางปฏิบัติของกรรมการ

1.     การทบทวนและสื่อสารวัตถุประสงค์หลักขององค์กร (Purpose-Driven Narrative)
กรรมการควรมีส่วนร่วมในการกำหนดและทบทวน Purpose ที่สะท้อนคุณค่าร่วม และสามารถเชื่อมโยงกับกลยุทธ์อย่างเป็นรูปธรรม

2.     ส่งเสริมความสอดคล้องของสารจากผู้นำ (Tone from the Top)
ตรวจสอบว่าเนื้อหาและน้ำเสียงของสารจากผู้บริหารระดับสูงสอดคล้องกับจุดยืนขององค์กร โดยเฉพาะในการติดต่อสื่อสารกับสาธารณชน นักลงทุน และ/หรือพนักงาน

3.     การบริหารเรื่องเล่าในสถานการณ์วิกฤต (Narrative under Crisis)
ให้ความสำคัญกับการเตรียมแผนการสื่อสารในภาวะวิกฤต โดยกรรมการควรให้คำแนะนำในเชิงกลยุทธ์เพื่อรักษาความเชื่อมั่น

******************************************************

EDGE: G = Growth-Oriented Mindset

ส่งเสริมวัฒนธรรมการเติบโตแบบมีส่วนร่วม ไม่ผูกอยู่กับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง

วัฒนธรรมที่ส่งเสริมการเรียนรู้และเติบโตในระดับองค์กร ต้องอาศัยการสนับสนุนจากคณะกรรมการ โดยเฉพาะในมิติของการพัฒนาคนและการเตรียมความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลง

แนวทางปฏิบัติของกรรมการ

1.     การส่งเสริมนวัตกรรมร่วมกับฝ่ายบริหาร
คณะกรรมการควรเปิดพื้นที่การหารือในประเด็นที่ส่งเสริมนวัตกรรม ทั้งในระดับกลยุทธ์ และการลงทุนระยะยาว

2.     การทบทวนแผนการพัฒนาผู้บริหารและการสืบทอดตำแหน่ง
พิจารณาอย่างรอบด้านทั้งในเชิงความต่อเนื่อง ความหลากหลาย และการสร้างผู้สืบทอดที่สะท้อนค่านิยมขององค์กร

3.     สนับสนุนวัฒนธรรมองค์กรแบบองค์รวม (Inclusive)
ส่งเสริมระบบตัดสินใจที่เปิดกว้าง ให้พนักงานและผู้มีส่วนได้เสียมีโอกาสเข้ามาเสนอความเห็นอย่างสร้างสรรค์

******************************************************

EDGE: E = Engaged Communication

การสื่อสารเชิงกลยุทธ์ที่มีแผน มีจังหวะ และมีเป้าหมายที่ชัดเจน

บทบาทของกรรมการในวันนี้ ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงการให้คำแนะนำหรือข้อคิดเห็นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการดูแลให้ระบบการสื่อสารขององค์กรมีทิศทางที่ชัดเจน สร้างผลลัพธ์เชิงกลยุทธ์ และสะท้อนความโปร่งใสอย่างทั่วถึงในทุกระดับขององค์กร

แนวทางปฏิบัติของกรรมการ

1.     การกำกับแผนการสื่อสารเชิงกลยุทธ์อย่างมีประสิทธิภาพ
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าองค์กรมี Strategic Communication Plan ที่รองรับกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียอย่างรอบด้าน พร้อมกลไกการวัดผล

2.     พัฒนาช่องทางการสื่อสารแบบสองทาง (Two-Way Engagement)
ให้ความสำคัญกับระบบฟังความคิดเห็น และการวิเคราะห์ข้อมูลจากผู้มีส่วนได้เสียเพื่อสะท้อนกลับเข้าสู่แผนกลยุทธ์

3.     บทบาทของกรรมการในฐานะ “ผู้สื่อสาร” (Communicator Role)
กรรมการควรมีบทบาทปรากฏในการสื่อสารบางช่วงเวลา เช่น การประชุมผู้ถือหุ้น หรือข้อความสารจากประธานกรรมการ/คณะกรรมการ เพื่อเสริมสร้างความไว้วางใจ

 ThaiIOD #CorporateGovernance #Tipsfordirectors #FutureReadyLeaders #BoardOfDirectors #TheEDGE #EDGE