Tips for Directors 5/2025จาก NPL (Non-Performing Loan หนี้เสีย) สู่สัญญาณเตือน NPL ที่คณะกรรมการควรจับตา (Non-Performing Leadership) หากองค์กรมี ตัวเลขสวย แต่คนเฉย และผู้นำมองไม่รอบด้าน องค์กรนั้นเสี่ยงเข้าสู่ หนี้เสียเชิงกลยุทธ์

สัญญาณเตือนที่คณะกรรมการควรจับตา NPL (Non-Performing Leadership) “หนี้เสียเชิงกลยุทธ์”
สัญญาณเตือน NPL ที่คณะกรรมการควรจับตา (Non-Performing Leadership) หากองค์กรมี ตัวเลขสวย แต่คนเฉย และผู้นำมองไม่รอบด้าน องค์กรนั้นเสี่ยงเข้าสู่ “หนี้เสียเชิงกลยุทธ์”
N = Numbers without Insights (ข้อมูลตัวเลขที่ขาดการวิเคราะห์เชิงลึกและบริบทที่เหมาะสม)
แม้รายงานผลการดำเนินงานจะมีตัวเลขครบถ้วน แต่หากไม่มีการวิเคราะห์เชิงลึก หรือไม่สามารถเชื่อมโยงกับผลกระทบเชิงกลยุทธ์และบริบทขององค์กรได้ ก็อาจทำให้คณะกรรมการหรือผู้บริหารตัดสินใจโดยอิงจากข้อมูลที่ไม่สะท้อนความเป็นจริงอย่างครบถ้วน
สัญญาณเตือน (Early Warning Signs)
• รายงานที่เน้นแต่ผลลัพธ์เชิงปริมาณ โดยขาดคำอธิบายเชิงคุณภาพหรือแนวโน้ม
• คณะกรรมการใช้เวลาไปกับการดูยอดตัวเลขและสถิติย้อนหลัง มากกว่าการคาดการณ์อนาคตที่สัมพันธ์กับความยั่งยืนของธุรกิจ
• ไม่มีการวิเคราะห์เบื้องหลังตัวเลข เช่น ปัจจัยความเสี่ยง หรือผลกระทบในอนาคต ที่เชื่อมโยงตัวเลขกับกลยุทธ์หรือการตัดสินใจ
ผลกระทบ:
เมื่อองค์กรให้ความสำคัญกับ “สิ่งที่วัดได้” มากกว่า “สิ่งที่สำคัญจริง” อาจนำไปสู่การตัดสินใจที่คลาดเคลื่อน หรือการมองข้ามปัญหาเชิงโครงสร้างที่กำลังค่อย ๆ สะสมและส่งผลในระยะยาว
*****************************************
P = People Disengagement (การขาดแรงจูงใจและการมีส่วนร่วมของบุคลากร)
บุคลากรทั้งในระดับปฏิบัติการ ผู้บริหาร หรือแม้แต่กรรมการ ขาดความรู้สึกมีส่วนร่วมกับเป้าหมายขององค์กร ไม่รู้สึกเป็นเจ้าของ หรือไม่รับผิดชอบต่อผลลัพธ์โดยรวม ส่งผลให้องค์กรอ่อนแรงจากภายใน แม้จะยังดูแข็งแกร่งจากภายนอก
สัญญาณเตือน (Early Warning Signs)
• ผลการสำรวจความผูกพันองค์กร (Engagement survey) ลดลงต่อเนื่อง
• ประชุมเยอะแต่ไม่มีการ Follow-up หรือรับฟัง Feedback ที่แท้จริง
• ขาดการสื่อสารสองทางระหว่างผู้บริหารกับทีมงาน
• อัตราการลาออกของพนักงานในกลุ่ม Top Talent หรือ Mid-Level สูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม
ผลกระทบ:
บรรยากาศการทำงานถดถอย ขาดพลังขับเคลื่อนจากคนเก่ง เสี่ยงต่อการสูญเสีย Talent และวัฒนธรรมที่ดี องค์กรจะสูญเสียศักยภาพในการปรับตัว และเสี่ยงต่อการหลุดโฟกัสจากเป้าหมายระยะยาว
*****************************************
L = Leadership Blind Spot (ช่องว่างในการมองเห็นของผู้นำเชิงกลยุทธ์)
ภาวะที่คณะกรรมการหรือผู้บริหารอาจมองข้ามประเด็นสำคัญบางอย่าง “ติดกับดักความสำเร็จ” มองโลกผ่านกรอบเดิม ไม่เปิดรับข้อมูลใหม่ ทำให้มองข้ามสัญญาณการเปลี่ยนแปลง ความเสี่ยงใหม่ หรือโอกาสที่เกิดจากบริบทที่เปลี่ยนไป
สัญญาณเตือน (Early Warning Signs)
• ผู้นำขาดการเปิดรับมุมมองใหม่ ๆ หรือความคิดเห็นที่แตกต่าง ข้อเสนอที่ขัดแย้งกับแนวทางเดิม มักถูกมองว่า “ไม่เข้าใจบริบท” หรือ “ขัดแย้งไม่สร้างสรรค์”
• ไม่มีวาระประจำเกี่ยวกับแนวโน้มสำคัญ เช่น Disruption, ESG, พฤติกรรมผู้บริโภค หรือ Future Risks ในการประชุมคณะกรรมการ
• ไม่พบว่ามีการตั้งคำถามเชิงกลยุทธ์ต่อข้อมูลหรือรายงานที่นำเสนอ เช่น “เกิดอะไรขึ้น?” “ถ้าไม่เป็นไปตามแผน จะเกิดอะไร?” เป็นต้น
• รายงานหรือการตัดสินใจในที่ประชุมคณะกรรมการมักอิงข้อมูลภายใน (เช่น งบการเงิน รายได้) โดยไม่มีข้อมูลเปรียบเทียบจากภายนอกหรือแนวโน้มอุตสาหกรรม
• ไม่จัดให้มีการประเมินตนเองของคณะกรรมการ หรือจัดให้มีการสะท้อนบทบาทเชิงกลยุทธ์ (Board Reflection)
ผลกระทบ:
“Leadership Blind Spot ทำให้องค์กรมองเห็นเพียงสิ่งที่ ‘อยากเห็น’ แต่ไม่ใช่สิ่งที่ ‘ควรมองเห็น’ จนพลาดทั้งความเสี่ยง ความจริง และความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ” ทำให้องค์กรขาดความพร้อมในการเผชิญความเปลี่ยนแปลง ส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันและความยั่งยืนในระยะยาว
#ThaiIOD #CorporateGovernance #Tipsfordirectors #IOD
#NPL #LeadershipMatters #GovernanceInsights #BoardEffectiveness #StrategicLeadership #BlindSpotAwareness
|