ไม่มีองค์กรไหนรอดพ้นจากวิกฤตการลาออกของ CEO ในช่วงนี้
อย่าปล่อยให้วิกฤติการลาออกของคณะกรรมการบริหารทำให้ตื่นตระหนก
เตรียมรัดเข็มขัดที่นั่งกันไว้นะ เพราะว่าเราอยู่บนถนนที่ขุรขระตลอดเส้นทางต่อไปจากนี้ ในช่วง 6-12 เดือนข้างหน้านี้ การลาออกของ CEO จะเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ และไม่มีธุรกิจใดใดจะมีภูมิคุ้มกันได้เลย
เรารู้ว่ามันช่างเป็นคำเตือนที่หาญกล้าอะไรเช่นนี้ แต่คำเตือนดังกล่าวมาจากประสบการณ์อันลึกซึ้งที่ได้จากการทำงานกับคณะกรรมการบริหารในโครงการคัดเลือกผู้สืบทอดตำแหน่ง CEO ในช่วงเวลานี้โครงการผู้สืบทอดตำแหน่ง CEO เป็นเพียงเสียงเพลงอันแผ่วเบาเนื่องจากบริษัทก็ต้องการสรรหาความมั่นคงก่อน แต่ถึงกระนั้นก็ตาม เหตุปัจจัยต่าง ๆ มากมายที่ทำให้ CEO ลาออกก็ยังคุกรุ่นอยู่
อธิบายมากขึ้นก็คือ ภัยโรคระบาดครั้งนี้ได้ทำการขัดจังหวะครั้งยิ่งใหญ่กับบริษัทแทบทุกบริษัท นัยสำคัญของโรคระบาดโควิดใหม่ได้ก่อให้เกิดการยกระดับอย่างไม่ทันตั้งตัว จากสภาวะการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ช่างเป็นสภาวะแวดล้อมที่ปกคลุมไปด้วยความไม่แน่นอนอันน่าตื่นตระหนก รวมถึงประเด็นทางเศรษฐกิจ สังคมวิทยา การเมือง และความเสี่ยงทางสุขภาพอีกด้วย
ธุรกิจส่วนใหญ่โดนบังคับให้เร่งความเร็วในการแปรเปลี่ยนทางเทคโนโลยีเพื่อทำให้ธุรกิจดำเนินต่อไป และการก้าวกระโดดอันยิ่งใหญ่รออยู่ข้างหน้า ในขณะที่พวกเขาก็ต้องตามดูและปรับเปลี่ยนค่านิยมของลูกค้าและตลาดใหม่ที่ก่อตัวขึ้น
ความสับสนอลหม่านเหล่านี้ก่อให้เกิดความหวาดระแวงสงสัยในกลยุทธ์เก่า ๆ ในอดีต รวมไปถึงความสอดคล้องของผู้นำในอดีตและปัจจุบันตามลำดับ ถึงจะเป็น CEO ผู้ประสบความสำเร็จก็ยากจะรักษาพลังงานขององค์กร ความเป็นเจ้าของหรือการดำรงความสำเร็จไว้ได้ และในระดับของ CEO การคาดหวังว่าจะดูดีในบริบทที่ผ่านมาแล้ว ทำให้ขาดศักยภาพอันสำคัญที่จะประกอบร่างสร้างองค์กรขึ้นมาใหม่
อาจจะฟังดูน่าตกใจ แต่ก็ถือเป็นตัวอย่างที่น่าสนใจสำหรับเราและเพื่อนร่วมงานในเรื่องการทำลายล้างตลาดและอุตสาหกรรมทั้งหมดอย่างราบคาบด้วยโควิด-19 ช่างเร้าใจอะไรเช่นนี้ ที่เราหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่เกี่ยวกับภาวะผู้นำไม่ได้ การลาออกของ CEO ไม่ว่าจะโดนให้ออกหรืออาสาออกเอง ล้วนก่อให้เกิดช่วงเวลาของการใคร่ครวญของคณะกรรมการบริหารว่าเขาเลือกที่จะนำพาหรือโดนชักนำในช่วงกาลยุคนี้ ที่เป็นการสร้างนิยามใหม่ของความเป็นผู้นำให้สำเร็จ
อัตราการลาออกของ CEO พุ่งทะยานไปเรื่อย ๆ แล้วในตอนนี้
ในความเป็นจริงแล้ว การลาออกของ CEO กำลังพุ่งทะยานอย่างรวดเร็ว ในปี 2019 เราเห็นอัตราการลาออกของ CEO สูงสุดในประวัติการณ์ ตามข้อมูลประกอบของบริษัทที่ทำธุรกิจจากการลาออกของผู้บริหารอย่าง Challenger, Gray, & Christmas ได้ระบุไว้ว่า ปี 2020 ปีแห่งโรครระบาด ก็จะเป็นอีกปีที่อัตราการลาออกของผู้บริหารพุ่งทะยานสูงกว่าปกติเช่นเดียวกัน
การลาออกของ CEO น่าจะเกิดจากกลุ่มผู้บริหาร baby boomer ผู้ที่ได้เลื่อนการลาออกจากงานถาวรออกไป สืบเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจตั้งแต่แรกแล้ว แต่ก็ยังเกิดจากสภาวะสูญเสียความมั่นใจของคณะผู้บริหารในการดำรงตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดกับความผันผวนของธุรกิจและตามข้อเท็จจริงแล้ว ครึ่งหนึ่งของ CEOs โดนให้ออก
เมื่อภาวะโรคระบาดเกิดขึ้น การลาออกของ CEO มักเป็นไปอย่างฉับพลันเนื่องจากบริษัทต้องการดำรงความมั่นคงเอาไว้ หลังจากที่เห็นตัวเลขเดือนพฤษภาคมก็ยิ่งกระตุ้นการลาออกของ CEO มากยิ่งขึ้น จากประสบการณ์ของเรา เราเล็งเห็นถึงอัตราความต้องการสรรหาบุคคลากรในระดับสูงมากขึ้น ทั้งการเสาะหาผู้บริหารแบบฉับพลันหรือตำแหน่งที่กำลังจะว่างในไม่ช้านี้
มากไปกว่านั้น มีการพูดคุยกันระหว่าง CEO และผู้นำในระดับเดียวกัน พวกเขาสะท้อนให้เห็นถึงสภาวะหมดไฟ ถอดใจ ความอลหม่านจากการถูกกดดันจากคณะกรรมการบริหาร ยังไม่รวมความวิตกกังวลที่เกิดขึ้นในตลาดอีกด้วย ถึงแม้ว่าผู้บริหารเหล่านั้นจะโดนตัดเงินเดือนอย่างหนักหน่วงไปบ้างแล้ว แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก ผู้บริหารระดับสูงตั้งคำถามอยู่เสมอ ว่าเขาจะอยู่นานแค่ไหน ที่จะได้เก็บเกี่ยวผลตอบแทนและรางวัลทางการเงินที่สะสมมาจากหยาดเหงื่อแรงกาย เพื่อที่จะไปต่อที่บริษัทอื่น
กระแสการลาออกยังคงมีต่อไปในขณะที่ตลาดผันผวนอย่างหนักหน่วงมากขึ้น การทำอะไรให้ง่ายขึ้น การให้ความสำคัญกับยุคธุรกิจออนไลน์ และสภาวะทางการเงินที่ต้องการความเที่ยงตรงอย่างยิ่งยวด ผู้บริหารระดับสูงผู้ที่มีทัศนคติแบบเก่า ๆ จะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ในขณะเดียวกัน ผู้นำที่แสดงออกถึงความกล้า การปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็วและความอดทนต่อความสับสนอลหม่านทั้งหลายทั้งปวงจะเป็นที่ต้องการอย่างมากในเวลานี้ ผู้นำเหล่านี้จะได้รับการยกย่องทั้งในองค์กรของเขาเองและบริษัทอื่น ๆ ก็อ้าแขนรับพวกเขาในอนาคต
และเมื่อ CEO เผยการลาออกออกมาให้เห็น ก็ย่อมส่งผลกระทบต่อบทบาทผู้บริหารระดับสูงอย่างแน่ชัด เราเริ่มบรรเลงเพลงในเกมหาเก้าอี้ของผู้บริหารระดับสูงอีกครั้ง และเกมดังกล่าวก็ถือเป็นการตกเก้าอี้ของผู้บริหารบางท่านด้วย
คณะกรรมการผู้บริหารจะตอบสนองอย่างไร
เรามีประสบกาณ์การทำงานกับผู้บริหารมายาวนานในฐานะโค้ชผู้บริหารระดับสูงและที่ปรึกษาในบอร์ด CEO และการสืบทอดตำแหน่งของผู้บริหาร จะขอถือโอกาสนี้เล่าให้ฟังว่าเราทำงานกับคณะกรรมการบริหารที่จะมีการตอบสนองสถานการณ์แบบนี้สองทางด้วยกัน
หนทางแรก คือ กลุ่มที่รักษาการสืบทอดตำแหน่ง CEO อย่างจริงจังและถือเป็นความรับผิดชอบที่สามารถวางใจได้ คณะกรรมการเหล่านี้ตระหนักดีว่าการคัดเลือก CEO ที่เหมาะสมเป็นตัวแปรสำคัญในการนำพาผลการเติบโตทางผลกำไร ความแตกต่างจากคู่แข่ง วัฒนธรรม และภาพพจน์ของบริษัท นอกเหนือจากนั้น นักลงทุนยังให้ความสำคัญกับปัจจัยการปกครอง สังคมและสิ่งแวดล้อม คณะกรรมการได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการสืบทอดตำแหน่งของ CEO ที่ส่งผลต่ออย่างมากต่อความมั่นใจของนักลงทุนและมูลค่าของหุ้น
มองอีกด้านหนึ่ง บ่อยครั้งเราอาจจะเห็นคณะกรรมการใส่ใจในเรื่องการสืบทอดตำแหน่งน้อยลง เนื่องจากคณะกรรมการจะมองว่าการสืบทอดตำแหน่ง CEO เป็นแผนที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ อาจจะเป็นเพราะพวกเขาทำงานกับ CEO มาหลายต่อหลายปี ทำให้มีความไว้วางใจและความเชื่อมั่นในภาวะผู้นำและวิธีการของพวกเขา หรือบางทีพวกเขาอาจจะแค่หมกมุ่นอยู่กับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้ทันการณ์ โดยที่เชื่อว่า การสืบทอดตำแหน่งสามารถรอได้
กลุ่มแรกมักจะเตรียมการสืบทอดตำแหน่ง CEO ผู้ซึ่งได้รับการคัดเลือกหรือโดนบังคับให้มาดำรงตำแหน่งตั้งแต่ต้น (เนื่องด้วยปัจจัยทางสุขภาพหรือสถานการณ์ครอบครัว) แต่ออกไปอย่างฉับพลัน พวกเขามักจะมีแนวโน้มที่จะเลือก CEO ที่ต่างออกไปในอนาคตและกระตือรือร้นมากกว่าที่จะเปลี่ยนตัว CEO ดังกล่าว
กลุ่มที่สองมักจะให้ความสำคัญกับอุปสรรคทางธุรกิจในภายภาคหน้ามากไปกว่าเรื่องคน เป็นเรื่องที่เข้าใจได้อย่างมาก และธุรกิจโดยภาพรวมก็กำลังเผชิญกับการปรับเปลี่ยนทางกลยุทธ์อย่างใหญ่หลวงอยู่แล้วสำหรับโลกหลังโควิด แต่นั่นก็ทำให้พวกเขาอยู่ในสภาวการณ์ที่อ่อนแอมาก ๆ
สภาวะการณ์ลาออกของ CEO มีผลกระทบอย่างใหญ่หลวงและยาวนานสำหรับลูกค้า ตลาด ความทรงจำต่าง ๆ ขององค์กร และความไว้วางใจของพนักงาน ในสภาวะการณ์ที่ผันผวน นักลงทุนมักจะมีความอดทนน้อยลงหรือไม่อาจใจเย็นได้ว่าการลาออกของ CEO จะไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่าง ๆ
เริ่มต้นตั้งแต่ตอนนี้
ข่าวร้ายก็คือ ภาวะโรคระบาดมีแนวโน้มจะส่งผลให้พนักงานบริหารทั้งหมดของท่านหายไปหมด เราจึงอยากจะแนะนำแผนการให้คณะกรรมการเริ่มตั้งแต่ตอนนี้
- เตรียมรับมือความหายนะที่แย่ที่สุด อย่าทำแต่เดินเตะกระป๋องไปตามถนน ช่วงเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะไม่ใส่ใจในความเสี่ยงและโอกาสที่เกิดขึ้นจากการสืบทอดตำแหน่ง CEO และผู้บริหาร สถาบันผู้บริหารระดับสูงแห่งชาติรายงานว่า 20% ของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นและ 30% ของบริษัทจดทะเบียนส่วนบุคคลไม่มีแผนสืบทอดตำแหน่งเลย เตรียมการไว้ได้เลยว่าการเติบโตในอนาคตอยู่ในภาวะเสี่ยงเพราะมันเป็นเช่นนั้นจริง ๆ
- พึงตระหนักไว้ว่าแผนการสืบทอดตำแหน่งของ CEO เป็นการวางแผนการณ์รับมือไว้หลาย ๆ รูปแบบ ไม่มีหรอก CEO ที่สมบูรณ์แบบ มีแต่ CEOs ที่เหมาะสมที่สุดกับสถานการณ์ของคุณ ดังนั้น เมื่อคุณมองไปยังอนาคต คุณจำเป็นต้องมองหาหนทางที่หลายหลายสำหรับธุรกิจของคุณ ให้มองพนักงานของคุณในแง่มุมของการเปลี่ยนแปลงบริบทต่าง ๆ และความต้องการของตลาดที่นำพาคุณให้ตัดสินใจให้ต่างออกไป
- เปี่ยมไปด้วยความโปร่งใส ให้รักษาผู้บริหารของคุณเอาไว้ คนที่คุณอยากให้เป็นผู้สืบทอด CEO อาจจะเป็นคนแรกที่อยากจะออกจากบริษัทของคุณเมื่อมีโอกาสที่เกิดขึ้นในทันใด ในกรณีที่บอร์ดของท่านหรือ CEO คนปัจจุบันลังเลที่จะเปิดโอกาสในตำแหน่งของตนที่เป็นไปได้สำหรับผู้สมัครเข้าคัดเลือกตำแหน่ง CEO ให้ผลักดันให้โปร่งใสเกี่ยวกับเรื่องนี้ตั้งแต่ตอนนี้ คณะกรรมการอาจจะกังวลเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลให้กับคู่แข่งเมื่อมีผู้สมัครที่ทำงานได้ปรากฎตัวขึ้นมา แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ผู้สมัครที่มีวุฒิภาวะจะเห็นแก่องค์กรก่อนเสมอ และคนที่ไม่เห็นเช่นนั้นจะก่อให้เกิดความเสี่ยงในหนทางข้างหน้า จงอธิบายคำตอบเกี่ยวกับผู้บริหารที่ไม่ได้ตอบ ความคาดหวัง และมุมมองเกี่ยวกับโอกาสในการเติบโตให้กับผู้สมัครตำแหน่ง CEO เวลาที่คิดว่ามีอาจจะสั้นกว่าที่คุณคิดก็ได้
- มองในมุมมองของการจัดการระหว่างผู้ให้บริการและผู้ผลิด ให้นึกถึงผู้สมัครผู้บริหารระดับสูงที่คุณมีอยู่เหมือนระบบการจัดการ supply chain การขัดจังหวะแค่ครั้งเดียวสามารถก่อให้เกิดอุปสรรคอันใหญ่หลวงกับตำแหน่งโดยรวมทั้งหมด ให้คงความสืบเนื่องของผู้บริหารและ CEO อย่างต่อเนื่องทั้งในส่วนข้อมูลการประเมินผู้บริหารและความพร้อมเมื่อจำเป็นต่างๆ และใส่ใจเร่งพัฒนาความพร้อมของเขาอย่างเป็นระบบเพื่อให้แน่ใจได้ว่าเค้าพร้อมที่จะเดินหน้าต่อ ให้เริ่มตั้งแต่ตอนนี้และจงอย่าหยุดกระบวนการ
อะไรจะเกิดขึ้นต่อไป
โรคระบาดโควิดได้ย้ำเตือนเราในเรื่องความผันแปรไม่แน่นอนของทุกสิ่ง เราต้องเตรียมความพร้อมที่จะตอบสนองอย่างรวดเร็วทันท่วงที ถึงแม้ว่าจะเป็นการคิดใหม่ทั้งหมดจากที่เราเคยรู้มาก่อนหรือที่เราคิดว่าเรารู้ เราต้องเริ่มด้วยคำถามที่ว่าใครพร้อมที่สุดที่จะนำพาองค์กรไปสู่ยุคแห่งความปกติต่อไป
คณะกรรมการที่มีความพร้อมและว่องไวในการดำเนินการในยุคนี้จะสามารถสร้างความแตกต่างกับเศรษฐกิจใหม่ พวกเขาจะเป็นคนที่มีผู้นำที่เหมาะสมไว้กับตัวเพื่อไปต่ออย่างมั่นใจ เติมพลังเชื้อไฟให้กับนักลงทุน ลูกค้า พนักงาน ผู้ร่วมหุ้น และผู้ถือหุ้นต่างๆในอนาคต
คุณสามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับผู้บริหารทรัพยากรบุคคลและคณะกรรมการบริหารสามารถเตรียมการในประเด็นเรื่องการลาออกของ CEO ไว้ก่อน สามารถดาวน์โหลดบทความเกี่ยวกับ การสืบทอดตำแหน่ง CEO : ความเชื่อที่คณะกรรมการคิดผิด
Audrey Smith, Ph.D. เป็น Principal Partner ของธุรกิจเกี่ยวกับผู้บริหารของ DDI นักปฏิบัติที่มีประสบการณ์มานาน ผู้นำทางความคิด สถาปนิกของกระบวนการสืบทอดตำแหน่งผู้บริหารของ DDI เธอมีประสบการณ์มากกว่า 25 ปี ในการทำงานกับคณะกรรมการบริหาร CEOs และทีมบริหารที่มุ่งเน้นไปที่ประสิทธิภาพสูง การแปรเปลี่ยนทางธุรกิจและการเติบโต
|